กฎหมายคนเข้าเมืองที่เกี่ยวข้องกับนักศึกษาต่างชาติ
พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 เป็นพระราชบัญญัติที่ใช้ในการตรวจตราผู้เข้า-ออกราชอาณาจักรไทย โดยให้ความหมายของคำสำคัญไว้ในข้อบัญญัติต่าง ๆ ดังนี้
มาตรา 4
คนต่างด้าว หมายความว่า บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
คนเข้าเมือง หมายความว่า คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักร
พนักงานเจ้าหน้าที่ หมายความว่า เจ้าพนักงานซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
หมวดที่ 4 การเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นชั่วคราว
มาตรา 35
คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว อธิบดีหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งอธิบดีมอบหมายจะอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรภายใต้เงื่อนไขใด ๆ ก็ได้ ระยะเวลาที่จะอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรให้กำหนดดังนี้
- ไม่เกิน 30 วัน คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว อธิบดีหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งอธิบดีมอบหมายจะอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรภายใต้เงื่อนไขใด ๆ ก็ได้ ระยะเวลาที่จะอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรให้กำหนดดังนี้
- ไม่เกิน 90 วัน สำหรับการท่องเที่ยว
- ไม่เกิน 1 ปี สำหรับการดำเนินธุรกิจ การศึกษาหรือดูงาน การปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน การเผยแพร่ศาสนาที่ ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้อง การค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์หรือ ฝึกสอนในสถาบันการค้นคว้าหรือสถาบันการศึกษาในราชอาณาจักร การปฏิบัติงานด้านช่างฝีมือหรือผู้เชี่ยวชาญ และการอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
- ไม่เกิน 2 ปี สำหรับการลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบจาก กระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้อง
- ตามกำหนดระยะเวลาตามความจำเป็น สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ทางทูตหรือกงสุล หรือการปฏิบัติหน้าที่ทาง ราชการ
- ตามกำหนดระยะเวลาที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเห็นสมควร สำหรับการลงทุนหรือการอื่นที่เกี่ยวกับการลงทุนภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน
ในกรณีที่คนต่างด้าวมีเหตุจำเป็นจะต้องอยู่ในราชอาณาจักรเกินระยะเวลาที่กำหนดในการปฏิบัติหน้าที่ทางทูตหรือกงสุล การปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ การท่องเที่ยว และการเล่นกีฬา ให้อธิบดีเป็นผู้พิจารณาอนุญาตให้อยู่ต่อไปได้ครั้งละไม่เกิน 1 ปี และเมื่อได้อนุญาตแล้ว ให้รายงานต่อคณะกรรมการเพื่อทราบพร้อมด้วยเหตุผลภายใน 7 วันนับแต่วันอนุญาต
การขออนุญาตเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไปแต่ละครั้ง ให้คนต่างด้าวยื่นคำขอตามแบบและเสียค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ในระหว่างรอฟังคำสั่งให้คนต่างด้าวผู้นั้นอยู่ในราชอาณาจักรไปพลางก่อนได้
มาตรา 36
คนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว หากมีพฤติการณ์ที่สมควรเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรให้อธิบดีหรือคณะกรรมการมีอำนาจเพิกถอนการอนุญาตที่ได้อนุญาตไว้นั้นได้ ไม่ว่าอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายเป็นผู้อนุญาต
ในกรณีที่อธิบดีมีคำสั่งเพิกถอนการอนุญาต คนต่างด้าวซึ่งถูกเพิกถอนการอนุญาตอาจยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการได้ คำสั่งของคณะกรรมการให้เป็นที่สุดแต่ในกรณีที่คณะกรรมการมีคำสั่งเพิกถอนการอนุญาต คำสั่งของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด
การอุทธรณ์คำสั่งของอธิบดีตามวรรคสอง ให้ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 48 ชั่วโมงนับแต่เวลาที่ได้ทราบคำสั่งของอธิบดี และให้ทำตามแบบและเสียค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
เมื่อมีการเพิกถอนการอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้ทำเป็นหนังสือแจ้งแก่คนต่างด้าว ในกรณีที่ไม่อาจส่งหนังสือเช่นว่านี้แก่คนต่างด้าวได้ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ปิดไว้ ณ ที่พักของคนต่างด้าวที่ได้แจ้งแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ไว้ครบกำหนด 48 ชั่วโมง ให้ถือว่าคนต่างด้าวผู้นั้นได้รับทราบคำสั่งแล้ว
มาตรา 37
คนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว
- ต้องไม่ประกอบอาชีพหรือรับจ้างทำงาน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากอธิบดีหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ถ้ากรณีใดมีกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าวบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นต้องได้รับอนุญาตตามกฎหมายนั้น
- พักอาศัย ณ ที่ที่ได้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุผลสมควรไม่สามารถพักอาศัย ณ ที่ที่ได้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้แจ้งการเปลี่ยนที่พักอาศัยต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 24 ชั่วโมงนับแต่เวลาที่เข้าพักอาศัย
- ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ณ สถานีตำรวจท้องที่ที่คนต่างด้าวผู้นั้นพักอาศัยภายใน 24 ชั่วโมงนับแต่เวลาที่ย้ายไป ในกรณีเปลี่ยนที่พักอาศัย ถ้าที่พักอาศัยใหม่อยู่ต่างท้องที่กับสถานีตำรวจท้องที่เดิม คนต่างด้าวผู้นั้นต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ณ สถานีตำรวจท้องที่ที่ไปพักอาศัยใหม่ภายใน 24 ชั่วโมงนับแต่เวลาที่ไปถึงด้วย
- ถ้าเดินทางไปจังหวัดใดและอยู่ในจังหวัดนั้นเกิน 24 ชั่วโมงให้คนต่างด้าวผู้นั้นแจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ณ สถานีตำรวจท้องที่ภายใน 28 ชั่วโมงนับแต่เวลาที่ไปถึง
- ถ้าอยู่ในราชอาณาจักรเกิน 90 วัน คนต่างด้าวผู้นั้นต้องมีหนังสือแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ณ กองตรวจคนเข้าเมืองทราบถึงที่พักอาศัยของตนโดยมิชักช้าเมื่อครบระยะ 90 วัน และต่อไปให้กระทำเช่นเดียวกันทุกระยะ 90 วัน ถ้าท้องที่ใดมีที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองตั้งอยู่ จะแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองแห่งนั้นก็ได้
ความใน (3) และ (4) จะมิให้ใช้บังคับแก่กรณีใดตามมาตรา 34 โดยเงื่อนไขอย่างใด ให้เป็นไปตามที่อธิบดีกำหนด
การแจ้งตามมาตรานี้ คนต่างด้าวอาจไปแจ้งด้วยตนเองหรือมีหนังสือแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ได้ ทั้งนี้ ตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด
มาตรา 38
เจ้าบ้าน เจ้าของหรือผู้ครอบครองเคหสถาน หรือผู้จัดการโรงแรมซึ่งรับคนต่างด้าว ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเข้าพักอาศัย จะต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่ที่บ้าน เคหสถาน หรือโรงแรมนั้นตั้งอยู่ภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาที่คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ถ้าท้องที่ใดไม่มีที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองตั้งอยู่ให้แจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ณ สถานีตำรวจท้องที่นั้น
ในกรณีที่บ้าน เคหสถาน หรือโรงแรมที่คนต่างด้าวเข้าพักอาศัยตามวรรคหนึ่งตั้งอยู่ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ กองตรวจคนเข้าเมือง
การแจ้งตามวรรคหนึ่งและวรรคสองให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด
หากไม่แจ้งจะมีโทษเปรียบเทียบปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท (นับตามจำนวนคนต่างด้าว
ที่เข้าพัก) ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
มาตรา 77 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 38 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท แต่ถ้าผู้นั้น
เป็นผู้จัดการโรงแรมต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท
มาตรา 39
คนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว หากเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร ให้ถือว่าการได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวดังกล่าวเป็นอันสิ้นสุด แต่ถ้าก่อนเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ให้กลับเข้ามาในราชอาณาจักรได้อีก และคนต่างด้าวนั้นได้กลับเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่เป็นผู้ต้องห้ามตามมาตรา 12 ถ้าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังมีเหลืออยู่ ให้อยู่ในราชอาณาจักรต่อไปได้เท่าระยะเวลาที่ยังเหลืออยู่นั้น
การขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก ให้คนต่างด้าวยื่นคำขอตามแบบและเสียค่าธรรมเนียมตามอัตราและหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง
กฎกระทรวง ฉบับที่ 27 (พ.ศ. 2546) ออกตามความในพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
สำหรับอัตราค่าธรรมเนียม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 26 (พ.ศ. 2553) ออกตามความในพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 โดยกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม ดังต่อไปนี้
การตรวจลงตราตามมาตรา 12 (1)
(ก) ประเภทคนเดินทางผ่านราชอาณาจักร ครั้งละ 800 บาท
(ข) ประเภทนักท่องเที่ยว ครั้งละ 1,000 บาท
(ค) ประเภทคนอยู่ชั่วคราว
- ใช้ได้ครั้งเดียว 2,000 บาท
- ใช้ได้หลายครั้งภายในหนึ่งปี 5,000 บาท
- ใช้ได้หลายครั้งภายในสามปี สำหรับบุคคล ซึ่งมีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือ เดินทางของสมาชิกกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อประกอบธุรกิจ 5,000 บาท
(ง) ประเภทคนเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามมาตรา 41 ครั้งละ 1,900 บาท
(จ) ประเภทคนเข้าเมืองนอกกำหนดจำนวนคนต่างด้าว ซึ่งจะเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรเป็นรายปี
- ใช้ได้ครั้งเดียว 1,900 บาท
- ใช้ได้หลายครั้งภายในหนึ่งปี 3,800 บาท
(2) อุทธรณ์ตามมาตรา 22 คนละ 1,900 บาท
(3) คำขออนุญาตเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไปตามมาตรา 35 คนหนึ่ง ครั้งละ 1,900 บาท
(4) อุทธรณ์ตามมาตรา 36 คนละ 1,900 บาท
(5) คำขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก ตามมาตรา 35
- คนหนึ่งใช้ได้ครั้งเดียว 1,000 บาท
- คนหนึ่งใช้ได้หลายครั้งภายในระยะเวลาที่ยังเหลืออยู่ 3,800 บาท
(6) คำขออนุญาตเพื่อมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามมาตรา 45 คนละ 7,600 บาท
(7) ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ตามมาตรา 47 หรือมาตรา 51
(ก) ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ตามมาตรา 47 ฉบับละ 191,400 บาท
ในกรณีที่ผู้ขอใบสำคัญถิ่นที่อยู่เป็นคู่สมรสหรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของคนต่างด้าวที่มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรหรือของบุคคลซึ่งมีสัญชาติไทย ฉบับละ 95,700 บาท
(ข) ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ตามมาตรา 51 ฉบับละ 95,700 บาท
(8) หลักฐานการแจ้งออกไปนอกราชอาณาจักร เพื่อกลับเข้ามาอีกตามมาตรา 50 (1) คนละ 1,900 บาท
(9) ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ตามมาตรา 50 (2) ฉบับละ 19,000 บาท
(10) เอกสารที่ออกให้ตามมาตรา 52 ฉบับละ 1,900 บาท
(11) คำขอเพื่อพิสูจน์สัญชาติต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ บาทตามมาตรา 57 คนละ 800 บาท
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทย เพื่อศึกษา หรือศึกษาและทำงาน เป็นกรณีพิเศษ ประกาศ ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2567
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ รัฐบาลจึงกำหนดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการดึงดูดคนต่างด้าวซึ่งศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษากับสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทยเพื่อศึกษา หรือศึกษาและทำงานในประเทศไทยเป็นกรณีพิเศษ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 83/2557 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติม ผู้รักษาการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจ ลงวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 และมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
- ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป
- คนต่างด้าวซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาที่ไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีที่ในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทยมีสิทธิขออนุญาตเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเพื่อศึกษา
- คนต่างด้าวซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาที่ไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทยมีสิทธิขออนุญาตเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเพื่อศึกษาและทำงาน เป็นกรณีพิเศษ
- ให้คนต่างด้าวตามข้อ 3 สามารถยื่นคำขอขยายระยะเวลาอนุญาตพำนักในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไปได้ครั้งเดียว ระยะเวลาพำนักไม่เกินหนึ่งปี โดยมีหลักฐานหนังสือรับรองจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองร่วมกันกำหนด
- ให้สถาบันอุดมศึกษาต้นสังกัดยื่นคำขอขยายระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเป็นกรณีพิเศษ แทนคนต่างด้าวตามประกาศนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่ อว. และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองร่วมกันกำหนด
- ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองประทับตราอนุญาตให้คนต่างด้าวตามประกาศนี้ อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไป เป็นเวลาไม่เกิน 1 ปี สำหรับใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งโดยไม่ต้องขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก
- คนต่างด้าวตามข้อ 4 หากมีความประสงค์จะขอเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตราหรือขอรับการตรวจลงตราเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวด้วยวัตถุประสงค์อื่น ให้สามารถกระทำได้ ทั้งนี้การพิจารณาอนุญาตให้เปลี่ยนประเภทการตรวจลงตรา และการอยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ด้วยวัตถุประสงค์อื่น ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำหนด
- คนต่างด้าวตามข้อ 4 ซึ่งประสงค์จะทำงานในราชอาณาจักรเมื่อได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรแล้ว ให้ยื่นและเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตราเป็นประเภทคนอยู่ชั่วคราวเพื่อการทำงานก่อน แล้ว จึงยื่นขอใบอนุญาตทำงานตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวต่อไป
- ให้คนต่างด้าวตามประกาศนี้เป็นผู้แจ้งที่พักอาศัยตามมาตรา 37 วรรคหนึ่ง (5) ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง
- การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษตามประกาศนี้ เป็นอันสิ้นผลในกรณีที่คนต่างด้าวนั้นถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไม่ว่าด้วยเหตุใด เมื่อมีการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าวตามวรรคหนึ่ง ให้การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของผู้ติดตามของคนต่างด้าวนั้นสิ้นสุดลงด้วย
- ให้คนต่างด้าวตามประกาศนี้ ได้รับยกเว้นการขออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ให้กลับเข้ามาในราชอาณาจักรได้อีกตามมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
คำสั่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ 136/2567 เรื่อง แนวทางการปฏิบัติในการอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทย เพื่อศึกษา หรือศึกษาและทำงาน เป็นกรณีพิเศษ สั่ง ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2567
เนื่องจากได้มีประกาศกระทรวงมหาfไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเพื่อศึกษา หรือศึกษาและทำงาน เป็นกรณีพิเศษ ลงวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 4 ข้อ 5 ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 9 ข้อ 10 และข้อ 11 แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเพื่อศึกษา หรือศึกษาและทำงานเป็นกรณีพิเศษ ลงวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 และความในข้อ 4 วรรคหนึ่ง ของระเบียบ ก.ต.ข.ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติราชการของผู้บัญชาการในฐานะเป็นอธิบดีหรือแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
พ.ศ. 2565 ประกอบมาตรา 12 (1) วรรคสอง และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จึงกำหนดแนวทางปฏิบัติไว้ ดังต่อไปนี้
- คนต่างด้าวดังต่อไปนี้ มีสิทธิขออนุญาตเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
- คนต่างด้าวซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย
- คนต่างด้าวซึ่งอยู่ระหว่างสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย
- การตรวจอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักร
- คนต่างด้าวตามข้อ 1 ที่ได้รับการตรวจลงตราประโคนอยู่ชั่วคราว รหัส ED Plus จากสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ของไทยในต่างประเทศ เมื่อเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในสังกัดกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 – 6 แล้วแต่กรณีตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรครั้งละไม่เกิน 90 วัน สำหรับใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยไม่ต้องขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก โดยใช้รหัสกำกับ ED Plus
- คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรตามข้อ 2.1 หรือได้รับการตรวจลงตราหรือเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตรา ตามข้อ 4.1 หรือได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อในราชอาณาจักรตามข้อ 3 เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรแล้วเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีกให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในสังกัดกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2-6 แล้วแต่กรณีตรวจอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรตามระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตไว้แล้ว สำหรับใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยไม่ต้องขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก โดยใช้รหัสกำกับ ED Plus
- การขออยู่ต่อในราชอาณาจักร
- การยื่นคำขอ
คนต่างด้าวตามข้อ 1 เมื่อครบกำหนดระยะเวลาอนุญาตแล้ว หากประสงค์จะอยู่ในราชอาณาจักรต่อไปอีก ให้ผู้แทนของสถาบันอุดมศึกษาที่คนต่างด้าวศึกษาอยู่ในประเทศไทยที่ได้รับ
การแต่งตั้งหรือมอบหมายจากสถาบันอุดมศึกษานั้น และที่ได้รับมอบอำนาจจากคนต่างด้าวเป็นผู้ยื่นคำขออนุญาตเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไปก่อนระยะเวลาการอนุญาตสิ้นสุด ตามแบบคำขออนุญาตเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไป (ตม.) พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องตามภาคผนวก ก แนบท้ายคำสั่งนี้และชำระค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองในสังกัดกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 หรือกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 -6 แล้วแต่กรณี โดยมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจสัญญาบัตรผู้มีหน้าที่รับผิดชอบเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรต่อไปอีกคนต่างด้าวตามวรรคหนึ่ง หมายความรวมถึง คนต่างด้าวซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษา
หรืออยู่ระหว่างการสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีโนสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย ที่ได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว รหัส ED จากสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ของไทยในต่างประเทศ คนต่างด้าวที่ได้รับการตรวจลงตราหรือเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตราเป็นประเภท
คนอยู่ชั่วคราว รหัส ED จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวด้วยเหตุผลดังกล่าว ก่อนวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 และคนต่างด้าวที่ได้รับการตรวจลงตราหรือเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตราเป็นประเภทคนอยู่ชั่วคราว รหัส ED Plus ตามข้อ 4.1
- การยื่นคำขอ